วันนี้ เวลา 11.30น.
ผม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
เดินทางถึง สน.ลาดพร้าว
โดยมี พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี รอต้อนรับ
ผมจึงไม่รอช้ามอบบัตรประจำตัวนักจิตวิทยา
คืนให้กับ พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี แล้วพูดว่า
พี่เอกครับ ผมคงทำงานในทีมของพี่เอก
ไม่ได้แล้วครับ เพราะตำรวจ สน.โคกคราม
คงจะตามหาเรื่องผมไม่จบแน่ ตั้งแต่อายุ19ปี
จนถึงตอนนี้ตำรวจ สน.โคกคราม คอยตามดู
ผมอยู่ตลอด ผมขอลาออกดีกว่าครับ
จากนั้น พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี ก็พาผม
ไปลงบันทึกประจำวันลาออกจากการเป็น
นักจิตวิทยาของ สน.ลาดพร้าว เมื่อลงเสร็จ
พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี พูดกับผมว่า
ไม่เป็นไรหนึ่ง เป็นนักจิตวิทยาไม่ได้
หนึ่งเป็นสายลับละกัน พี่เอกเชื่อว่าหนึ่งทำได้
ทันใดนั้นเอง พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี
หยิบบัตรสายลับออกมามอบให้กับผม
แล้วพูดว่า พี่เชื่อว่าหนึ่งจะผ่านข้อกล่าวหา
ไปได้ทั้ง3ประเด็น ผมตกใจเล็กน้อย
ทันใดนั้นเอง เวลา12.00น.
พ.ต.ต.รชานนท์ ทับทิม
สว.(สอบสวน)สน.ลาดพร้าว
ก็เดินเข้ามาหาผม แล้วพูดว่า
ผมขอสอบปากคำ คุณณัฐพล เริ่มฤกษ์
ต่อจากคราวที่แล้วครับ คราวนี้จะสอบเน้น
ใน3ประเด็นหลักครับ ผมจึงตอบว่ายินดีครับ
เมื่อเข้าไปในห้องสอบสวน พ.ต.ต.รชานนท์
ไม่รอช้าสอบถามผมในประเด็นแรกทันที
ว่าเหตุใด คุณณัฐพล เริ่มฤกษ์ จึงกล่าวหาว่า
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์
เอาสมุดบัญชีของ คุณณัฐพล เริ่มฤกษ์
ไปก่อเหตุฉ้อโกง ผมตอบไปทันทีเลยว่า
ผมเข้าใจผิด ตอนนี้ชี้แจงให้แล้ว
จากนั้น พ.ต.ต.รชานนท์ ก็ถามผมในประเด็น
ที่สองทันทีว่า คุณณัฐพล เริ่มฤกษ์ ลงข้อความ
กล่าวหาว่า นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์
เป็นบุคคลข้ามเพศ คุณณัฐพลมีหลักฐาน
หรือไม่ ผมตอบไปทันทีว่า มีสิครับตอนนี้
หลักฐานใบรับรองเพศสภาพ
ของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์
อยู่กับ พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี และตัวผมเอง
ก็ดูการใช้ชีวิตของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์
ก็พบว่าไม่มีภรรยา พ.ต.ต.รชานนท์ จึงถาม
ผมว่าแล้ว คุณณัฐพล เริ่มฤกษ์ มีภรรยาหรือไม่
ผมตอบไปทันทีว่ามีครับ และภรรยาของผม
ยินดีที่จะเป็นพยานรับรองเพศสภาพให้ผมเสมอ
ผมลงข้อความไปตามจริงเพราะว่า
นางศุภดา ศุภศรีทวีภัทร มารดาของ
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์
พยามปกปิดเรื่องนี้ ผมทำไปเพื่อช่วยให้
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์
และ นางศุภดา ศุภศรีทวีภัทร มารดาของเขา
ยอมรับความจริง
จากนั้น พ.ต.ต.รชานนท์ ก็ถามในประเด็นที่สาม
ว่า คุณณัฐพล เริ่มฤกษ์ กล่าวหาว่า
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์ มีประวัติ
การใช้สารเสพติด คุณณัฐพล เริ่มฤกษ์
มีหลักฐานหรือไม่ครับ ผมตอบอย่างมั่นใจ
ว่ามีครับ ตอนนี้หลักฐานอยู่กับ
พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี และทีสำคัญผมเห็นการ
ใช้ชีวิตของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์ ผมก็ดูออก
ว่า นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์ เคยติดยา
พ.ต.ต.รชานนท์ ก็ถามว่าแล้วเหตุใด
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์ ไม่มีประวัติ
ถูกจับกุมในคดียาเสพติด ผมก็ตอบไปเลยว่า
นางศุภดา ศุภศรีทวีภัทร มารดาของเขาปิดข่าว
เพราะในช่วงวัยรุ่นผมและเพื่อนๆ
ในหมู่บ้านสราญรมย์
หัดขับรถยนต์ และ มอไซด์ เพื่อประกอบอาชีพ
แต่ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์ ไม่มาหัดขับ
ทั้งๆที่บ้านของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์ ก็มีรถยนต์
ถึง4คัน และจากการตรวจสอบ
ของ พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี ก็พบว่า
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์ มีใบขับขี่
มอไซด์ และ รถยนต์ประเภทส่วนบุคคล
จึงสรุปได้ว่า นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายธนินท์ธร อมรวัฒนากรณ์
มีพฤติกรรมใช้สารเสพติดจนไม่สามารถ
ขับขี่ยานพาหนะได้ จากนั้น พ.ต.ต.รชานนท์
ก็ถามคำถามที่ไม่ควรจะถามกับผมว่า
เรื่องที่ คุณณัฐพล เริ่มฤกษ์ มีประวัติถูกจับกุม
ในท้องที่ สน.โคกคราม เป็นเรื่องจริงหรือไม่
ผมจึงตอบอย่างมั่นใจไปเลยว่ามันเรื่องของผม
ไม่เกี่ยวกับคดีของคุณ ผมให้ปากคำแค่นี้พอ
ที่เหลือขอไปสู้คดีในชั้นศาล
จากนั้นผมก็ลงนามในบันทึกคำให้การ
แล้วออกจาก สน.ลาดพร้าว เวลา14.50น.
