


ศาสตร์ที่เจ้าของร้านWitch Luck Cafe
ใช้อยู่คือ ไพ่ทาโรต์หรือไพ่ยิปซี
เริ่มแรกจากชื่อเรียกของไพ่ก่อนเลย
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมเดี๋ยวเปย์เป้
ก็เรียกว่าไพ่ทาโรต์ เดี๋ยวก็เรียกว่าไพ่ยิปซี ตกลงแล้วไพ่ที่ใช้ดูดวงเนี่ย มันมีชื่อเรียกว่าอะไรกันแน่นะ ?!
ความจริงแล้วเราสามารถเรียกได้ทั้ง 2 แบบเลย เพราะเป็นไพ่ชนิดเดียวกัน แต่ในสากลจะเรียกไพ่ชนิดนี้ว่าไพ่ทาโรต์ ส่วนคนไทยเราจะนิยมเรียกว่าไพ่ยิปซีมากกว่า นั้นก็เป็นเพราะเราเรียกตามที่มาของไพ่นั้นเอง
คำว่ายิปซีตามประวัติศาสตร์ คือ ชื่อเรียกของกลุ่มคนเร่ร่อนในยุโรปกลุ่มนึง เชื่อว่าเป็นคนอินเดียหรือฮินดูที่อพยพกันไปอยู่ในแถบทวีปยุโรป ซึ่งในยุคนั้นคนยุโรปไม่ได้ชื่นชอบคนต่างชาติและออกไปทางเหยียด มิหนำซ้ำชาวยิปซียังเป็นคนผิวสีด้วย ก็ยิ่งไม่ได้รับการยอมรับจากคนยุโรปยิ่งกว่าเดิม เพราะมีความเชื่อว่าสีดำ คือ สีของซาตาน
ซึ่งลักษณะนิสัยของคนกลุ่มนี้ คือ ชอบความสนุกสนาน ความบันเทิงเริงใจ และขึ้นชื่อว่าเป็นกลุ่มหัวขโมยเพราะมือไว ล้วงกระเป๋าไวเป็นที่สุด และความสามารถพิเศษของพวกเขา คือ การทำนายอนาคต ! ด้วยความสามารถนี้แหละที่ทำให้มุมมองของคนยุโรปที่มีต่อชาวยิปซีเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ก่อนที่จะมาเป็นไพ่ทาโรต์ ชาวยิปซีดูดวงด้วยการใช้ลูกแก้วมาก่อน ถ้าเราเคยดูหนังหรือในละครที่จะเห็นหมอดูทำนายดวงโดยใช้ลูกแก้ว บอกเลยว่านี่แหละคือการทำนายชะตาแบบออริจินอลแท้ของชาวยิปซี ซึ่งลูกแก้วนี้เป็นเหมือนสื่อนำในการทำนายทายชะตา โดยจะสะกดจิตให้ผู้ถูกทำนายจมอยู่กับสมาธิและคล้อยตามจนพูดถึงสิ่งที่เคยทำในอดีตออกมาแบบหมดเปลือก
แต่เมื่อต้องอพยพไปยุโรปการทำนายด้วยลูกแก้วนั้นดูจะอันตรายเกินไป จากเดิมที่ถูกเหยีดดอยู่แล้ว จู่ๆ ถ้าไปนั่งทำนายชะตาแบบสุ่มสี่สุ่มห้า อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นพ่อมดหรือแม่มดได้ ทำให้ชาวยิปซีต้องเปลี่ยนจากการทำนายด้วยลูกแก้ว มาใช้ไพ่เป็นสื่อกลางในการทำนายแทน พร้อมสอดแทรกเรื่องราวที่สามารถอ้างอิงได้อย่างเรื่องเทพเจ้ากรีกโบราณ เรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิ้ล เป็นต้น เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความกลมกลืน และป้องกันการถูกเหยียดเชื้อชาติด้วย
ถึงแม้จะปรับเปลี่ยนพลิกแพลงจากลูกแก้วมาเป็นไพ่แล้ว แต่ศาสตร์การทำนายด้วยไพ่ทาโรต์ก็ไม่ได้รับการยอมรับในทันที แต่มาได้รับความนิยมหลังจากที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลที่ 6 ของฝรั่งเศส ได้อนุญาตให้หญิงชาวยิปซีเข้ามาดูดวงให้ แรกเริ่มก็ดูเพื่อเอ็นเตอร์เทน สร้างความสำราญใจให้คนชั้นสูงเท่านั้น แต่กลับกลายเป็นว่าแม่หมอดันทำนายความลับของพระองค์ได้อย่างแม่นยำ แถมผลทำนายเรื่องอนาคตก็เป็นไปตามที่แม่หมอพูดไว้ทั้งหมด ตั้งแต่นั้นมาจึงทำให้การดูดวงด้วยไพ่ของชาวยิปซีได้รับการยอมรับและความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ชาวยิปซีเองก็ได้การยอมรับจากคนยุโรปมากขึ้นตามไปด้วย
จนในปี ค.ศ. 1491 ได้มีการผลิตไพ่ทาโรต์สำรับแรกขึ้น มีทั้งหมด 78 ใบด้วยกัน มีชื่อว่า ไพ่ทาโรต์ชุดโซลาบุสกา ถูกตั้งชื่อตามผู้ครอบครองไพ่ 2 คนสุดท้ายนั่นเอง นับว่าเป็นไพ่ที่เก่าแก่ที่สุดที่ประวัติศาตร์ได้บันทึกไว้
ได้รู้ที่มาที่ไปของคำว่าไพ่ทาโรต์หรือไพ่ยิปซีแล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือศิลปะและภาพวาดบนหน้าไพ่ สำหรับไพ่ชุดโซลาบุสกาเป็นไพ่ที่วาดด้วยศิลปะแบบเรอเนซองส์ โดย ชาร์ลส์ หรือ ชากเกอแมง แกรงกงเนอร์ จิตรกรชาวฝรั่งเศส โดยใช้เทคนิคพิเศษ คือ แกะสลักแผ่นทองแดงและระบายสีลงไป เอกลักษณ์ของไพ่ชุดนี้ คือ ใช้เส้นในการเน้นน้ำหนักให้เห็นรายละเอียดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้ออย่างชัดเจน มีการนำบุคคลในประวัติศาสตร์อย่าง พระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ กษัตริย์แห่งบาบิโลน มาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวลงบนหน้าไพ่ด้วย
แต่ถึงอย่างนั้นไพ่ชุดนี้ก็ไม่ได้ถูกเผยแพร่ต่อสายตาประชาชี จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1907 มีหนุ่มชาวมิลานที่เป็นผู้ครอบครองต้นฉบับไพ่ชุดนี้อย่างถูกต้อง ได้นำสำเนาภาพถ่ายไพ่ส่งต่อให้กับ British Museum ไพ่ชุดโซลาบุสกาจึงได้ถูกนำมาจัดแสดงและเผยแพร่ต่อสาธารณชนในตอนนั้นนั่นเอง
หากจะบอกว่าไพ่ชุด Rider-Waite ได้แรงบันดาลใจมาจากไพ่โซลาบุสกา ก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะหลังจากที่ไพ่โซลาบุสกาได้ถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ อาร์เธอร์ เอ็ดเวิร์ด เวธ ก็ได้เป็นหนึ่งในผู้เข้าชมนิทรรศการในครั้งนั้นด้วย ซึ่งพ่อหนุ่มคนนี้เป็นหนึ่งในสมาชิกของสมาคม The Golden Dawn เป็นกลุ่มของคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในเรื่องของเวทมนตร์ ไสยศาสตร์ สิ่งลี้ลับ หรือพวกศาสตร์มืดต่างๆ เมื่อได้เห็นชุดไพ่ในนิทรรศการเขาก็ได้แรงบันดาลใจอยากจัดทำสำรับไพ่ของตัวเองขึ้น ก็เลยลาออกจากสมาคมเดิม ไปจัดตั้งสมาคมใหม่ของตัวเอง แถมยังชักชวน พาเมลา โคลแมน สมิธ จิตรกรสาวผู้ชื่นชอบเรื่องการอ่านไพ่ทาโรต์ และยังเป็นหนึ่งในสมาชิกของ The Golden Dawn มาร่วมกันออกแบบไพ่สำรับนี้ด้วยกัน จนได้ไพ่ทาโรต์ที่มีชื่อว่า Rider-Waite ออกเผยแพร่และวางจำหน่ายในปี ค.ศ. 1909
ส่วนศาสตร์ของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
เรียกว่า มโนมยิทธิ
มโนมยิทธิ แปลความตามตัวอักษรได้ว่า
“มีฤทธิ์ทางใจ” คือ การรู้ การเห็น
การสัมผัส ตามความเป็นจริงด้วยใจ
หลักสูตร วิชชา “มโนมยิทธิ” นี้
ปรากฏมีรจนาไว้ในพระคัมภีร์วิสุทธิมรรค
ของพระพุทธโฆษาจารย์ เมืองสะเทิม
หรือเมืองสุธรรมวดี ซึ่งท่านเป็นพระอรหันต์
ปฏิสัมภิทาญาณ ที่โบราณาจารย์ท่านรับรอง
ไว้แล้ว
ไม่มีใครใช้สารเสพติดจนจิตหลอน
อย่างที่ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ส่งข้อความมากล่าวหาในอีเมล์
ของร้านWitch Luck Cafe เมื่อเวลา22.30น.