ผม นายเชิดชัย เริ่มฤกษ์
เป็นพ่อของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
ชี้แจงเรื่องการเข้าพบนักจิตวิทยาตอนเด็ก
ของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
เบื้องต้นผมต้องอธิบายก่อน
ว่า นักจิตวิทยา กับ จิตแพทย์
มีความแตกต่างกัน ดังนี้
หากใครยังคิดว่านักจิตวิทยา
และ จิตแพทย์เหมือนกัน
ถือว่าเป็นความเข้าใจผิด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้
ว่าทั้ง 2 หน้าที่นี้มีจุดประสงค์เดียวกัน
คือต้องการให้ผู้ที่มีปัญหาด้านต่าง ๆ
ในชีวิตสามารถก้าวผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ได้
โดยหน้าที่ของพวกเขาสามารถกล่าวได้ดังนี้
จิตแพทย์ มีหน้าที่หลัก ๆ ในการวินิจฉัย
และหาวิธีในการดูแลรักษาให้หาย
จากอาการสภาวะต่าง ๆ
นักจิตวิทยา มีหน้าที่คอยให้คำปรึกษา
และทำการบำบัด แต่ไม่มีอำนาจ
ในการวินิจฉัย หรือสั่งยารักษาได้
ถึงจะมีอำนาจหน้าที่ค่อนข้างแตกต่างกัน
แต่ทั้งสองต้องคอยทำงานร่วมกัน
เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดี
และ สามารถแก้ปัญหาอาการ
หรือสภาวะต่าง ๆ ได้ เช่น ความเครียด
ปัญหานอนไม่หลับ โรคย้ำคิดย้ำทำ
และโรคซึมเศร้า เป็นต้น
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น
ว่าการที่หน่วยงานต่างๆเช่นโรงเรียน
ออกหนังสือส่งตัวเต็งเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ
ด้านสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องแปลก
และ น่าอาย โรงเรียนให้เหตุผล
ว่ายิ่งถ้าหากปล่อยเอาไว้จะยิ่งส่งผล
ต่ออารมณ์ และความรู้สึกจนยาก
ที่จะรักษาได้ โดยทางโรงเรียนอ้างว่า
มีหลักการ ว่าอาการที่เด็กแสดงออกมา
และเป็นสัญญาณว่าควรเข้าพบผู้เชี่ยวชาญ
ได้แก่
มีพฤติกรรมหรือแนวโน้มจะทำร้ายตนเอง
มีพฤติกรรมรุนแรงต่อบุคคลรอบข้าง
หรือ ทำลายข้าวของบุคคลอื่น
เคยมีประวัติเป็นภาวะซึมเศร้ามาก่อน
มีความเครียดมากเกินไป
หรือ สะเทือนใจจากเหตุการณ์ในชีวิต
จนก้าวผ่านไม่ได้
เคยพบเจอกับเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อจิตใจ
ในวัยเด็กมาก่อน
จากเหตุผลที่ทางผู้บริหารโรงเรียน
ชี้แจงกับผม ผมก็พอเข้าใจได้ว่าจะช่วยเด็ก
แต่ทางโรงเรียนคงจะลืมคิดหรือเปล่าไม่รู้
ว่า จะทำให้เด็กมีประวัติติดตัวมาจนวัยโต
ส่งผลต่อการใช้ชีวิต และ หน้าที่การงาน
ในกรณีของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
ได้มีการแจ้งความกับ พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี
หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว
เพื่อออกหมายเรียกตัวนักจิตวิทยา
และ จิตแพทย์ ซึ่งเต็งเคยเข้าพบ
มาสอบปากคำ บางคนยอมลงบันทึกประจำวัน
ถอนคำวินิจฉัย และ ผลตรวจที่ผิดพลาด
แต่ในส่วนบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเต็ง
แต่เสือกมาก้าวล่วง และ ละเมิดสิทธิของเต็ง
เช่น น.ส.ณัฐนันท์ พลอยประดับ
นำเอาข้อมูลการเข้าพบนักจิตวิทยาของเต็ง
ไปร้องเรียนกับผู้บริหารของหน่วยงาน
ราชการต่างๆ เพื่อดับอนาคตราชการของเต็ง
และ นายเจตน์ ธารารัตนชัย
นำข้อมูลผลตรวจของเต็งไปเผยแพร่
เพื่อประโยชน์ส่วนตน
ขณะนี้ พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี
กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี
ในฐานความผิด พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
