ผู้เขียน หัวข้อ: ไขข้อข้องใจ ทำไม ซื้อประกันให้ลูก ถึงสำคัญ และเลือกประกันอย่างไรให้เหมาะกับเด็ก  (อ่าน 83 ครั้ง)

melow

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 67
    • ดูรายละเอียด

พ่อแม่บางคนมักคิดว่าการที่ลูกเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นเรื่องธรรมดาและคงเสียค่ารักษาพยาบาลไม่มาก จึงเลือกที่จะไม่ ซื้อประกันเด็กให้ลูก ทั้งที่ความจริงแล้วเด็ก ๆ มีความเสี่ยงต่อโรคภัยต่าง ๆ มากกว่าผู้ใหญ่ อีกทั้งค่ารักษาพยาบาลแต่ละครั้งยังค่อนข้างสูง บางกรณีค่าใช้จ่ายสูงกว่าผู้ใหญ่เสียด้วยซ้ำ ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ วันนี้เราจะพาพ่อแม่ทุกคนไปทำความเข้าใจกันว่าประกันสุขภาพเด็กมีความสำคัญอย่างไร และควรเลือกประกันอย่างไรให้เหมาะกับเด็ก

ประกันสุขภาพเด็กมีความสำคัญอย่างไร?
เด็กเล็กอายุตั้งแต่ 1 - 5 ขวบ ถือเป็นช่วงวัยที่ภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเต็มที่ ทำให้เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยด้วยโรคต่าง ๆ ได้ง่าย สิ่งที่ตามมาคือค่ารักษาพยาบาลที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นประกันสุขภาพเด็กจึงสำคัญอย่างยิ่ง
ช่วยแบ่งเบาภาระค่ารักษาพยาบาล
    ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเด็กแต่ละครั้งมีตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น หากเป็นการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนค่าใช้จ่ายจะเฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 – 20,000 บาท แต่หากมีประกันสุขภาพของเด็กก็จะช่วยให้พ่อแม่หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายไปได้เกือบ 100%
คุ้มครองโรคหลากหลาย
ประกันสุขภาพเด็กครอบคลุมโรคที่พบบ่อยในเด็ก เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก มือเท้าปาก อีสุกอีใส ฯลฯ ยิ่งหาก ทำประกันให้ลูก ตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เจ็บป่วยก็จะสามารถคุ้มครองลูกจากโรคต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม แม้จะตรวจเจอโรคภายหลังก็ยังสามารถเคลมประกันได้
เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพ
ประกันสุขภาพเด็กหลายเจ้ามักจะมีเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญากระจายอยู่ทั่วประเทศ ทำให้พ่อแม่สามารถพาลูกเข้ารับการรักษาพยาบาลได้อย่างทันท่วงที หรือสามารถตัดสินใจพาลูกน้อยไปรักษาพยาบาลยังโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือแพทย์ทันสมัยได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย

วิธีเลือกประกันสุขภาพให้เหมาะกับเด็ก
เนื่องจากประกันสุขภาพเด็กมีความสำคัญอย่างมาก การเลือกซื้อประกันย่อมต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้ละเอียดถี่ถ้วน โดยปัจจัยที่ควรพิจารณามีดังต่อไปนี้
รายละเอียดความคุ้มครอง
อันดับแรกต้องพิจารณาก่อนว่าประกันฉบับนั้น ๆ คุ้มครองตั้งแต่อายุเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ และคุ้มครองครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง วงเงินคุ้มครองสูงสุดเท่าไหร่ และที่สำคัญคือโรงพยาบาลที่รองรับสิทธิประกันดังกล่าวมีมากหรือน้อย หรืออยู่ใกล้กับที่พักอาศัยหรือไม่
ความคุ้มครองเพิ่มเติม
นอกเหนือจากความคุ้มครองหลักแล้ว ควรพิจารณาว่าประกันฉบับนั้น ๆ มอบความคุ้มครองเพิ่มเติมอะไรอีกบ้าง เช่น ค่าฉีดวัคซีนสำหรับเด็กฟรี ค่าตรวจสุขภาพ ค่าใช้จ่ายด้านทันตกรรม เป็นต้น
เบี้ยประกันไม่เกินกำลัง
พ่อแม่ที่วางแผนจะ ซื้อประกันให้ลูก เราขอแนะนำให้เลือกประกันที่มีค่าเบี้ยประกันต่อปีเป็นสัดส่วนไม่เกิน 10 – 15% ของรายได้ต่อปีของพ่อและแม่รวมกัน เช่น พ่อแม่มีรายได้ต่อปีรวมกัน 400,000 บาท ควรเลือกซื้อประกันที่มีค่าเบี้ยประกันต่อปีไม่เกิน  40,000 – 60,000 บาท เพื่อไม่ให้กระทบกับสถานะทางการเงินของครอบครัวในระยะยาว
   
ทั้งหมดนี้คือสาระความรู้เกี่ยวกับการทำประกันชีวิตประกันสุขภาพเด็กที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ และสำหรับพ่อแม่คนไหนที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเลือก ทำประกันให้ลูก กับบริษัทไหนดี เราขอแนะนำประกันสุขภาพสุขใจจากธนาคารกรุงไทย ที่มอบความคุ้มครองทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก มอบจำนวนเงินผลประโยชน์ต่อรอบปีกรมธรรม์สูงสุดถึง 300,000 บาท หรือจำนวนเงินผลประโยชน์ต่อการรักษา 1 ครั้ง สูงสุดถึง 75,000 บาท ที่สำคัญคือค่าเบี้ยประกันไม่แพงและสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย




ploy

  • บุคคลทั่วไป
น.ส.ณัฐนันท์ พลอยประดับ ขอถาม
นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ เจ้าของฉายาไรเดอร์สมองเคลียด
ว่าบัญชีของ ธนาคารไทยพาณิชย์
สาขา มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ชื่อ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
เลขที่บัญชี 077-284-1465
แน่ใจเหรอว่าบัญชีชื่อ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
แล้วเอ็งเป็นGrab Car กับ Grab Driver
ได้ด้วยเหรอ เท่าที่ข้ารู้มาเอ็งเป็นผู้ป่วยจิตเวช
เพราะใช้ยาเสพติด เป็นกะเทยอีกด้วย
แล้วเอ็งจะสมัครเป็นGrab Car กับ Grab Driver
ได้ยังไง ข้ายังสมัครไม่ได้เลย
เพราะตอนเด็กข้าเคยมีประวัติพบจิตแพทย์
เรื่องที่ข้าไม่ยอมใส่ยกทรง และ ถอดเสื้อโชว์หัวนม
เล่นฟุตบอลในโรงเรียน


communischai

  • บุคคลทั่วไป

ผม นายเชิดชัย เริ่มฤกษ์
เป็นพ่อของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
ขอแจ้งข้อความถึงผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่
ในเขตบึงกุ่ม ในสมัยที่เต็งเคยไปรับยาบ้า
มาขาย แล้วถูกตำรวจ สน.โคกคราม
จับกุมดำเนินคดี ด้วยการแจ้งเบาะแส
ของ นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน
(อปพร.เขตบึงกุ่ม) ในสมัยนั้น
ตอนนี้มันเปลี่ยนชื่อเป็น นายเจตน์ ธารารัตนชัย

อันนี้คือบัตรประชาชนที่ใช้แจ้งเหตุ
จับกุม นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ในปี2549

สังเกตดูจะเห็นว่าเลขบัตรประชาชนเดียวกัน
เพราะฉะนั้นหากท่านผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่
จะแค้น ก็ขอให้ไปลงกับ
นายพร้อมพล อรุณรัตนดิลก
หรือ นายเจตน์ ธารารัตนชัย คนนี้เลย
ไม่ใช่ลงกับ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
ลูกชายของผม เพราะลูกชายผมไม่เคย
ซัดทอดว่าไปรับยาบ้าที่ไหน
และ รับมาจากใคร ในสำนวนคดี
ที่เต็งโดนจับในปี2549 และ หลังจากนั้น
อีก2ครั้ง ในพื้นที่ สน.โคกคราม
เต็งยอมรับความผิดเพียงผู้เดียวไม่เคย
ซัดทอดถึงผู้ใด เต็งให้ปากคำว่า
เป็นเรื่องส่วนตัว ผมเองก็เคยถามเต็ง
ตอนที่ไปเยี่ยมที่เรือนจำ เต็งก็พูดเหมือนกัน
ว่า เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะฉะนั้นแม้แต่
ตัวผมเองก็ยังไม่ทราบเลยว่าเต็ง
ไปรับยาเสพติด มาจากที่ใด และ รับจากใคร
เพราะฉะนั้นขอให้เลิกสงสัยในตัวเต็ง