วันนี้ผม นายเชิดชัย เริ่มฤกษ์
เป็นพ่อของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ได้บอกลูกชายให้ไปแจ้งความ
ดำเนินคดี นายวุฒิชัย เกียรติภราดร
ที่ สน.ลาดพร้าว เรียบร้อยแล้วครับ
จากการสืบสวนของตำรวจ สน.ลาดพร้าว
นายวุฒิชัย เกียรติภราดร คนนี้แหละ
ที่แอบอ้างสวมใช้ข้อมูลส่วนตัว
ของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ ไปก่อเหตุต่างๆ
เช่น เปิดเบอร์โทรศัพท์
และ เปิดบัญชีธนาคาร
ที่สำคัญ นายวุฒิชัย เกียรติภราดร คนนี้
มีประวัติเป็นโรคจิตเวช และ มีความพยายาม
ย้ายประวัติการรักษาของตน
มาใส่ให้ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์ หรือ หนึ่ง
ลูกชายของผม ดังนั้นคงนิ่งเฉยไม่ได้
เพราะประวัติเสียของ นายวุฒิชัย เกียรติภราดร
มันจะติดตัวหนึ่งลูกชายผมไปตลอดชีวิต
คนเป็นพ่ออย่างผมคงจะยอมรับไม่ได้
นายวุฒิชัย เกียรติภราดร คนนี้นอกจาก
ป่วยจิตเวชแล้ว ยังก่อคดีไว้มากมาย
เช่น ลักทรัพย์ ฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร
แสดงตนเป็นบุคคลอื่น ผมเป็นพ่อหนึ่ง
รู้นิสัยและวิธีการใช้ชีวิตของหนึ่งดี
จิตใจของหนึ่งผูกพันกับวัตถุสิ่งของเท่านั้น
ไม่ปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ตอนวัยเด็กหนึ่ง
เรียนรู้ด้วยตัวเอง ผมและภรรยาไม่เคย
ก้าวล่วงการใช้ชีวิตของลูก
ไม่เคยบังคับให้ลูกทำสิ่งใด
หรือ ห้ามลูกไม่ให้ทำสิ่งใด
ผมและภรรยา จึงไม่เชื่อว่าหนึ่ง
จะมีแรงกดดันมาจากไหน เพราะฉะนั้น
หนึ่งไม่มีทางเป็นจิตเวช และไม่มีเหตุผล
ที่จะต้องไปก่อเหตุลักทรัพย์ผู้อื่น
หนึ่งเป็นคนไทยมีบัตรประชาชน
ทำธุรกรรมได้ทุกอย่าง จะต้องไปใช้บัตร
คนอื่นเพื่ออะไร คนที่แจ้งความกล่าวหาหนึ่ง
จำนวน13คน ผมบอกเลยนะครับ
คุณหาหลักฐานมายืนยันกับตำรวจด้วย
มิเช่นนั้นจะโดนข้อหาแจ้งความเท็จ
ส่วนคนที่กล่าวหาว่าหนึ่งจิตใจไม่ตรงเพศ
ในงานเลี้ยง งานสังคมต่างๆ ผมจะบอกให้นะ
ว่าการเลี้ยงดูลูกของผมและภรรยา
หนึ่งเป็นคนรักอิสระ จิตใจอ่อนโยน
ผมและภรรยาเลี้ยงหนึ่งให้เติบโต
อย่างธรรมชาติ ไม่เคยมีความคิด
จะเปลี่ยนแปลงสิ่งใดในตัวของหนึ่งทั้งนั้น
หลักการนี้มาจากญี่ปุ่น
คือ ให้อิสระ ไม่ปิดกั้น ไม่เปลี่ยนแปลง
แล้วเรื่องที่หนึ่งถูกส่งไปตรวจอาการจิตเวช
ตั้งแต่วัยเด็ก ผมและภรรยาก็เพิ่งทราบ
เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมานี้เอง
ขอบคุณ พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี
ที่ส่งตัว นายวุฒิชัย เกียรติภราดร
เข้า เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา
ตามหมายจับเก่า
ของ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ตามที่หนึ่งเคยแจ้งความไว้ที่อยุธยา
นี่คือตัวอย่างของคนที่ใส่ร้ายหนึ่ง
โดยไร้พยานหลักฐาน
