
วันนี้ผม นายเชิดชัย เริ่มฤกษ์
เป็นพ่อของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี
ที่ สน.ลาดพร้าว เพื่ออธิบายขั้นตอน
การเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล
ของ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
พร้อมทั้งยื่นเอกสารประกอบสำนวนคดี
คือ หนังสื่อสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว2ฉบับ
และ หนังสื่อสำคัญการเปลี่ยนชื่อสกุล2ฉบับ
และ กำหนดแนวทางของคดี
โดยมี พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี
หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว
เป็นผู้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวน
ได้ผลสรุปดังนี้คือ คดีฐานความผิด
หมิ่นประมาท เสนอให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง
ส่วนคดี พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล
เสนออัยการให้ฟ้องลงโทษสถานเบา
เนื่องจาก นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
มีวุฒิภาวะต่ำ จึงกระทำไป
โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะมีก็เพียงโทษปรับ
ส่วนคดีที่ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์(เต็ง)
เป็นผู้แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลต่างๆ
ผมต้องเป็นพยานทุกคดี เนื่องจาก
หนังสื่อสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว2ฉบับ
และ หนังสื่อสำคัญการเปลี่ยนชื่อสกุล2ฉบับ
ของเต็งนั้น ผมเป็นผู้ลงนาม
เพราะว่าในปี2552 เต็งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
รวมทั้งอธิบายขั้นตอนดังนี้คือ
วันที่ 12พ.ค.2552
ตัวผม นายเชิดชัย เริ่มฤกษ์
เปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล ณ สนง.เขตบึงกุ่ม
ชื่อตัวคือ สรดิษฐ์
ชื่อสกุลคือ พิชิตสงคราม
จากนั้น 13พ.ค.2552
ก็ทำหนังสือให้ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
ร่วมใช้ชื่อสกุล และ ผมเป็นผู้ลงนาม
ใน หนังสื่อสำคัญการเปลี่ยนชื่อตัว
และ หนังสื่อสำคัญการเปลี่ยนชื่อสกุล
โดยมีนายทะเบียนของ สนง.เขตบึงกุ่ม
ชื่อว่า นายนรินทร์ ต้นถาวร
เป็นผู้ประทับตรา และ ลงนามรับรอง
ให้ นายณัฐพล เริ่มฤกษ์
เปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล
เป็น นายชญานิษฐ์ พิชิตสงคราม
ในวันดังกล่าว ส่วนแนวทางการดำเนินคดี
พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี ได้ให้แนวทาง
คือ ความผิดของเต็งที่เกิดขึ้นก่อนปี2552
ไม่ต้องนำมากล่าวถึงเพราะหมดอายุความ
ไปหมดแล้ว ตอนนี้มุ่งเน้นเอาผิดบุคคล
ที่กระทำการนำประวัติของเต็งไปใช้
หรือ นำไปเผยแพร่ในสถานที่ต่างๆ
เพราะบุคคลอื่นไม่มีสิทธิรับรู้หรือครอบครอง
เอกสารใดๆของเต็ง ตอนนี้หากใครมี
เอกสารของเต็งไว้ในครอบครอง
ให้รีบดำเนินการทำลายทิ้งให้หมด
เช่น ประวัติสุขภาพจิต ประวัติเพศสภาพ
ประวัติสารเสพติด และ เอกสารการเปลี่ยน
ชื่อตัว-ชื่อสกุล ของเต็ง
โดยเฉพาะ นายเจตน์ ธารารัตนชัย
อปพร.เขตบึงกุ่ม
ผู้มีใจคิดร้าย ทำลายความสุข
ในชีวิตของเต็ง โดยใช้อำนาจหน้าที่
ของการเป็น อปพร.เขตบึงกุ่ม
เกินกว่าเหตุที่ควรจะเป็น ผมสงสัยว่า
ในปี2549 เหตุใด อปพร.คนนี้
จึงไม่ใช้วิธีจากเบาไปหาหนักตามที่
ได้อบรมมา เอ็งควรถามเต็งก่อน
ว่าจะสมัครใจเข้ารับการบำบัดหรือไม่


จากนี้ พ.ต.ต.เอกพจน์ มณี กล่าวว่า
อาจจะต้องมีการขออำนาจศาล
เพื่อเข้าตรวจค้นที่พัก ของบุคคล
ซึ่งเคยแจ้งความดำเนินคดีกับเต็ง
เพื่อหาพยานเอกสารหลักฐาน
ว่ามีความพยายามใส่ร้ายเต็งหรือไม่
หากพบหลักฐานจะถูกควบคุมตัว
และ ส่งฟ้องศาลภายใน48ชั่วโมง
